ภาพถ่าย

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เตือน "ซูชิ" มีคอเลสเตอรอล - สารปรอท



ใครที่ชอบกินอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ คงต้องอ่านเรื่องนี้แล้วคิดใหม่เสียหน่อย เพราะรายงานข่าวจากเมืองผู้ดีระบุว่า ผู้คนใน อังกฤษกำลังหันมากินข้าวปั้นซูชิกันมากขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อาหารญี่ปุ่นชนิดนี้ไม่ได้เป็นมิตรกับสุขภาพอย่างที่เข้าใจกัน

หลุยส์ ซัตตัน แห่งมหาวิทยาลัยลีดส์ เมโทรโพลิแทน บอกว่า ซูชิซึ่งมีทั้งหน้าปลาดิบ ไข่ หรือผัก อาจมีคอเลสเตอรอล เกลือ พยาธิตัวกลม สารปรอท และแบคทีเรีย ฉะนั้นควรเลือกกินอย่างชาญฉลาด

 คอเลสเตอรอล : ไข่ปลาค็อดที่แนมมากับซูชินั้น มีกรดไขมันโอเมกา-3ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจ แต่ไข่ปลาก็มีคอเลสเตอรอลสูง จึงไม่ควรกินคราวละมากๆ หรือกินบ่อยๆ หากเป็นคนที่มีคอเลสเตอรอลสูงอยู่แล้ว ผู้ป่วยโรคเกาต์ไม่ควรกินซูชิเพราะมีกรดยูริกสูง ซึ่งจะทำให้อาการกำเริบ

 เกลือ : แม้ซูชิมีเกลือน้อย แต่ถ้าจิ้มซอสถั่วเหลืองจนชุ่มก็จะเป็นการเพิ่มเกลือ ซอสที่ใส่มาในถุงพร้อมซูชินั้น มีเกลือ 1กรัม คน เราไม่ควรได้รับเกลือเกินวันละ 6กรัม ฉะนั้น คนที่มีความดันโลหิตสูงจึงควรหลีกเลี่ยงซอสถั่วเหลือง หรือคนที่แพทย์แนะนำให้ กินอาหารที่มีเกลือน้อย

 พยาธิตัวกลม : รายงานวิชาการสองชิ้น ซึ่งนำเสนอต่อที่ประชุมของสมาคมศาสตร์ว่าด้วยกระเพาะอาหารและลำไส้อเมริกันเมื่อ เร็วๆ นี้ บอกว่าพบพยาธิตัวกลมในซูชิ เมื่อถูกย่อยในทางเดินอาหารของมนุษย์ ตัวอ่อนของพยาธิตัวกลมจะเกาะเข้ากับเยื่อบุกระ เพาะอาหารและลำไส้ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และท้องร่วง ปลาดิบที่จะนำมาทำซูชิควรแช่แข็งที่อุณหภูมิลบ 20องศา เซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 24ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้พยาธิตาย

 สารปรอท : เมื่อปีที่แล้ว ผลวิจัยในวารสาร Biology Letters ในอังกฤษ เปิดเผยว่า ซูชิหน้าปลาทูน่าซึ่งมีขายตามร้านอาหารและ ซูเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐ มีสารปรอทสูงเกินระดับมาตรฐานด้านสาธารณสุข หากได้รับสารปรอทมากเกินไปจะส่งผลต่อระบบ ประสาท เช่น อัมพาตสมอง หูหนวก ตาบอด ดังนั้นหญิงมีครรภ์จึงควรหลีกเลี่ยงปลาบางชนิด เช่น เนื้อปลาทูน่าสด

แบคทีเรีย : แบคทีเรียที่พบบ่อยในซูชิเป็นชนิด สตาไฟโลค็อกคัส ออรีอุส ซึ่งเจอในข้าวมากกว่าในปลาดิบ หากข้าวปั้นถูกทิ้ง ไว้ที่อุณหภูมิห้อง แบคทีเรียในข้าวจะแบ่งตัว และเสี่ยงต่อโรคอาหารเป็นพิษ

การเลือกซื้อควรเลือกซูชิที่สดใหม่ กินหมดภายในเวลาที่กำหนด และเก็บแช่ในตู้เย็น


ที่มา ... ไทยโพสต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น